Happy Dtac

↑ Grab this Headline Animator

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ส้มตำกะท้อน

ส่วนผสมส้มตำกุะท้อน

กระท้อนปอกเปลือกหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก2 ถ้วย
พริกแห้ง2 เม็ด
กระเทียมกลีบเล็ก3 กลีบ
เกลือป่น1/2 ช้อนชา
ปลากรอบย่างแกะเอาแต่เนื้อ2/4 ถ้วย
น้ำตาลปีบ2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา3 ช้อนชา




วิธีทำอาหารส้มตำกะท้อน
1. แกะพริกแห้งเอาเมล็ดออก โขลกกับเกลือ กระเทียมให้ละเอียด
2. ใส่กระท้อนโขลกเบาๆ ใส่น้ำตาล น้ำปลา คนพอทั่ว ใส่ปลากรอบ พริกไทย คนพอเข้ากัน
3. ตักใส่จาน จัดเสิร์ฟ

ส้มตำไทย

ส่วนผสมส้มตำไทย
มะละกอดิบ 1 ลูก
กระเทียม 5-6 กลีบ
พริกขี้หนู 5-6 เม็ด
มะเขือเทศผ่าครึ่ง 2 ลูก
ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วฝักยาวหั่น 1 ฝัก
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว หรือ
น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย

น้ำตาลปีป 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำอาหาร ส้มตำไทย
1.ปลอกมะละกอ และล้างด้วยน้ำให้สะอาด แล้วทำการเฉาะและสับ แล้วใช้มีด ฝานให้เป็นเส้นๆ หรืออาจใช้ที่ไสมะละกอก็ได้
2.ใส่กระเทียมและพริกขี้หนู ลงในครก แล้วตำให้พอแตก
3.ใส่มะเขื่อเทศ, ถั่วลิสง, ถั่วฝักยาว, กุ้งแห้ง แล้วตำให้เข้ากัน
4.ใส่มะละกอ และ เครื่องปรุงที่เหลือ แล้วตำเบาๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ.


วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

13 เมนู กับแกล้มเหล้า

13 เมนู กับแกล้มเหล้า



เมนูแรกขอเสนอ
แกงป่านกสับ

เครื่องปรุง
1. นกกระทา สับละเอียด 4 ตัว
2. น้ำพริกแกงเผ็ด หรือ น้ำพริกแกงป่า 4 ช้อนโต๊ะ
3. ใบมะกรูดซอย 15 ใบ ฉีก 10 ใบ
4. กระชาย 500 กรัม
5. พริกชี้ฟ้า เขียว แดง 10 เม็ด
6. มะเขือพวง
7. มะเขือเปราะ 10 ลูก
8. พริกไทยอ่อน
9. ใบกระเพรา
10. น้ำปลา + เกลือ

ส่วนผสมเครื่องแกง
1. พริกแห้ง 3 กำ + พริกขี้หนูสด 30 เม็ด
2. กระเทียม 1 หัว
3. ตะไคร้ 5 ต้น
4. ผิวมะกรูด 3 ผล
5. กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
6. เกลือ 2 ช้อนชา

วิธีการทำ
ผัดพริกแกงให้หอมสัก 5 นาที จากนั้นใส่นกสับปั้นเป็นก้อนเล็กๆลงไปผัด เมื่อนกและ พริกแกงผัดเข้ากันดีแล้ว ตามด้วยใบมะกรูดฉีก พอนกสุกดีแล้ว ใส่กระชาย แล้วผัดต่ออีกสัก 5 นาทีเติมน้ำพอประมาณไม่ต้องเยอะนัก เติมน้ำสัก 2-3 ถ้วยชาก็พอ จากนั้นทิ้งให้เดือดเต็มที่ พอเดือดแล้วปรุงรสตามชอบ ใส่มะเขือเปราะลงไป แล้วรอให้เดือดอีกครั้งพอเดือดทีนี้ใส่ พริกไทยอ่อน มะเขือพวง และพริกชี้ฟ้า ปล่อยไว้สัก 5-8 นาที จากนั้นชิมอีกครั้ง ขาดเหลือให้เติม แล้วใส่ใบกระเพรา กดให้จมแล้วปิดไฟเสร็จพร้อมเสริฟแล้วครับ

..............................................................................................................



เมนูต่อมาขอเสนอ
นกทอดกระเทียม

ส่วนผสม
1. นกหั่นเป็นชิ้นๆ
2. เกลือป่น
3. ซอสถั่วเหลือง
4. กระเทียม
5. พริกไทย

วิธีการทำ
นำกระเทียม พริกไทย โขลกรวมกัน นำนกที่เตรียมไว้มาคลุกเคล้าใส่เกลือป่น ซอส หมักทิ้งไว้สักครู่ นำมาทอดให้สุกเหลืองดี เสริฟร้อนๆ

.....................................................................................................................
*เปลี่ยนจากนกเป็นหนูนา ปรุงในลักษณะเดียวกันน่าจะอร่อยไม่หยอก แกล้มเบียร์เย็น ๆ แบบเป็นวุ้น สุดยอด น้ำลายหก



เมนูที่ 3 ขอเสนอ
ผัดเผ็ดนก

เครื่องปรุง
1. นกกระทาหั่นเป็นชิ้น 3 ตัว
2. น้ำพริกแกงเผ็ดแดง 1 ช้อนโต๊ะ ชอบเผ็ดเพิ่มได้
3. มะเขือหั่นเป็นชิ้น 3 ลูก
4. ใบกระเพราเด็ดเป็นใบ 1 กำมือ
5. พริกไทยสด 2 ช่อ
6. พริกขี้หนูหั่นแฉลบ 5 เม็ด
7. พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ 2 เม็ด
8. ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
9. น้ำปลา
10. น้ำตาล
11. น้ำมันพืช
12. น้ำเปล่า พอประมาณ

วิธีการทำ
กระทะตั้งไฟกลางๆ ใส่น้ำมัน รอให้ร้อนแล้วใส่เครื่องแกงลงผัด ผัดจนเครื่องแกงหอม ก็ใส่นกที่หั่นไว้ลงผัดกับเครื่องให้เข้ากันดี จนเกือบๆสุก จากนั้นก็เติมน้ำเปล่าลงไปสักนิดนึงก่อน แล้วผัดต่อจนเครื่องเข้ากันดี เมื่อนกเริ่มสุกแล้ว ใส่พริกไทยสด ใส่มะเขือที่เตรียมไว้ ผัดเร็วๆให้เข้ากันอีกครั้ง เติมน้ำอีกนิด แล้วใส่น้ำปลา น้ำตาล แล้วคนให้เข้ากันดี ชิมรสให้ถูกใจ ตามด้วยพริก ต่อด้วยใบมะกรูด ผัดให้เข้ากันอีกสักครั้ง ใส่ใบกระเพรา แล้วคนๆให้ทั่วเตรียมเสริฟได้เลยครับ

.....................................................................................................................
กินแกล้มกับเบียร์เย็นๆ ก็ไม่ผิดกติกานะคับ

เกร็ดความรู้
ใช่ว่าเบียร์จะไม่มีอะไรดีๆ หันมาดูข้อดีของเบียร์กันบ้างครับ
ดีต่อหัวใจ : จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยอีโมรี พบว่าผู้หญิงและผู้ชายสูงอายุจำนวน 2,200 คนที่ดื่มเบียร์วันละ 1.5 แก้วต่อวัน มีความเสี่ยงต่อโณคหัวใจล้มเหลวลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แสดงว่าเบียร์ช่วยสูบฉีดโลหิต ทำให้หลอดเลือดหัวใจแข็งแรง และขจัดไขมันที่เกาะอยู่ตามหลอดเลือดออกไป
ดีต่อสมอง : นักวิทยาศาสตร์ในบอสตันพบว่าคนที่ดื่มเบียร์ตั้งแต่ 1-6 แก้วต่อสัปดาห์ จนถึง 7-14 แก้วต่อสัปดาห์จะเกิดอาการชักได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเลย เพราะว่าเบียร์สามารถช่วยลดขนาดเม็ดเลือด และช่วยให้เลือดไม่ไปคั่งอยู่ที่สมองได้
ดีต่อจิตใจ : การดื่มเบียร์ช่วยลดความเครียดได้ ช่วยให้ผ่อนคลาย หายกังวล ทำให้อารมณ์ดี เป็นการป้องกันโรคซึมเศร้าไปในตัว
ดีอื่นๆ : เบียร์มีสารอาหารสำคัญอยู่หลายตัว ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามิน B ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เซเลเนียม และธาตุเหล็ก เพราะมันทำมาจากยอดอ่อนของข้าวเอาไปหมักกับยีสต์ คนที่ดื่มเบียร์จึงไม่ขาดสารอาหารที่จำเป็น แต่การจะได้ผลดีจากการดื่มเบียร์ ต้องดื่มแค่เป็นยาและนานๆ ดื่มที ซดแทนน้ำนี่ไม่นับนะครับ



เมนูที่ 4 ขอเสนอ
นกกระจอกเทศผัดพริกไทยดำ

เครื่องปรุง
1. เนื้อนกกระจอกเทศ 200 กรัม
2. พริกฝรั่งเขียว 30 กรัม
3. พริกชี้ฟ้าแดง 30 กรัม
4. พริกไทยขาว-ดำ 20 กรัม
5. ต้นหอม 5 กรัม
6. น้ำมันหอม 2 ช้อนโต๊ะ
7. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา
8. กระเทียม
9. รากผักชี
10. น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง

วิธีการทำ
นำเนื้อนกกระจอกเทศ ไปล้างทำความสะอาด หั่นชิ้นตามขวางพอคำ หั่นพริกฝรั่ง ชี้ฟ้าแดงเป็นสี่เหลี่ยมพองาม พักไว้ สับกระเทียมรากผักชี ลงไปผัดพอเหลือง ทุบพริกไทยขาว-ดำให้แตกใส่ลงไป พริกชี้ฟ้าแดง เนื้อนกผัดพอสุกแล้วปรุงรสชาติตามต้องการ หั่นต้นหอมเป็นท่อนใส่ลงไป มีน้ำพอขลุกขลิก พร้อมเสริฟครับ

.....................................................................................................................



เมนูที่ 5 ขอเสนอ
ผัดเผ็ดหมูป่า

เครื่องปรุง
1. เนื้อหมูป่า 3 ขีด
2. พริกแกง 1 ช้อนคาว
3. พริกไทยอ่อน 7 ช่อ หั่นหรือเด็ดเป็นท่อนสั้นๆ
4. กะชาย 4 ราก ซอยเป็นเส้น
5. พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ 4 เม็ด
6. ใบมะกรูดฉีก 6 ใบ
7. กะทิหรือนมสด 3 ช้อนคาว
8. น้ำมันพืช หรือน้ำมันหมู
9. ซอสหอยนางรม
10. น้ำปลาดี
11. น้ำตาลทราย
12. เหล้านิดหน่อย
13. พริกไทยป่น

วิธีการทำ
1. เนื้อหมูป่าที่วางขายตามห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ จะตัดมาเป็นก้อนสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกำปั้น เผาและขูดขนเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เป็นหนังจะเกรียมเหลือง แต่ยังเห็นขนสีดำฝังอยู่ชัดเจน ชั้นไขมันบางกว่าหมูธรรมดา ส่วนที่เป็นเนื้อหนาสีแดงสด นำมาล้างให้สะอาด
2. หั่นแบ่งก้อนเนื้อหมูป่าที่ซื้อมาตามยาวออกเป็น 3-4 ส่วน โดยแต่ละส่วนมีหนังติดไปด้วยแล้วจึงหั่นเป็นชิ้นพอคำ อย่าหั่นเป็นชิ้นเล็กนะครับ ชิ้นเนื้อหมูป่าที่หั่นสำเร็จแล้วนี้มีหนังหมูป่าติดอยู่ด้วยทุกชิ้น
3. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชหรือน้ำมันหมูลงไป 2 ช้อนคาว พอน้ำมันร้อนใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอม ใส่กะทิหรือนมสดตามลงไปผัด
4. ใส่เนื้อหมูป่าลงไปผัดกับน้ำพริกแกง ติมน้ำสะอาดลงไปนิดหน่อย พอมีน้ำขลุกขลิก เหยาะเหล้าลงไปเล็กน้อย จะช่วยให้เนื้อหมูป่านุ่ม ตามด้วยพริกไทยอ่อนและกระชายซอย ผัดจนแห้งและเนื้อหมูสุก
5. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำปลาดี เดาะน้ำตาลทรายตัดรสนิดหน่อย
6. ชิมรสได้ที่แล้วใส่พริกชี้ฟ้าใบมะกรูด ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จานโรยด้วยพริกไทยป่นบางพร้อมจัดสำรับแล้วครับ

หมายเหตุและทีเด็ดเคล็ดไม่ลับ
ผัดเผ็ดหมูป่านี้ ความอร่อยอยู่ที่ความกรุบกรอบของหนังและเนื้อหมูป่าที่ค่อนข้างเหนียว เหมาะสำหรับคนที่สุขภาพฟันดีกรามแข็งแรงเท่านั้น ใครจะใช้สันในหมูผัดรวมกับหนังหมูต้ม หรือหมูสามชั้นที่มันน้อยๆแทนเนื้อหมูป่าก็ได้ครับ

.....................................................................................................................



เมนูที่ 6 ขอเสนอ
ยำหอยนางรม

เครื่องปรุง
1. หอยนางรมสด 300 กรัม
2. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำมะนาว 3 ช้อนโตีะ
4. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
6. พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด
7. กระเทียม 5 กลีบ
8. กระเทียมเจียว 1/2 ถ้วย
9. หอมแดงเจียว 1/2 ถ้วย

วิธีการทำ
1. ตั้งน้ำให้เดือดนำหอยนางรมไปลวกให้พอสุก พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. โขลกพริกขี้หนูกับกระเทียมให้ละเอียดใส่ถ้วย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำพริกเผาและน้ำปลาคนให้เข้ากัน
3. ใส่หอยนางรมลงผสม เทใส่จาน แล้วโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวและหอมแดงเจียว รับประทานกับผักสดตามชอบ เช่น ยอดกระถิน คะน้าอ่อน ผักกาดหอม

.....................................................................................................................



เมนูที่ 7 ขอเสนอ
ยำสไบนาง

เครื่องปรุง
1. ผ้าขี้ริ้ววัว
2. หอมแดงซอย
3. ต้นหอมผักชีก็ได้ หั่นหยาบ
4. พริกขึ้หนูสด
5. ใบสะระแน่
6. พริกป่น
7. ข้าวคั่ว
8. น้ำปลา
9. น้ำมะนาว

วิธีการทำ
1. นำผ้าขี้ริ้วไปต้มหรือลวกจนสุก แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ
2. นำพริก น้ำมะนาว น้ำปลา ข้าวคั่ว ผสมรวมกันชิมรสตามชอบ แล้วใส่ผักทั้งหมดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. เสร็จแล้วเติมผ้าขี้ริ้วที่หั่นไว้ลงไปผสม แล้วก็จัดใส่จาน ทานกับแตงกวา หรือผักสดอื่นตามชอบ

.....................................................................................................................



เมนูที่ 8 ขอเสนอ
ยำเมียหนี

เครื่องปรุง
1. มะเขือยาว 2 ลูก
2. หมูบด 1/4 ถ้วย
3. กุ้งลวก 8 ตัว
4. สะระแหน่เด็ดเป็นใบ 2 ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุงน้ำยำ
1. พริกขี้หนูซอย 2 ช้อนชา
2. หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย
5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีการปรุง
1) ผสมเครื่องปรุงน้ำยาเข้าด้วยกัน
2) ย่างมะเขือให้สุกนุ่ม นำไปปอกเปลือกออก หั่นเป็นท่อนสั้นใสชาม
3) ใส่กุ้ง เนื้อหมู ราดด้วยน้ำยำ เคล้าให้ทั่ว
4) ตักใส่จาน โรยสะระแหน่ เสิร์ฟ

.....................................................................................................................



เมนูที่ 9 ขอเสนอ
ปลาทอดราดซอสมะขาม

ส่วนประกอบ
1. ปลาช่อนแล่เป็นชิ้นบาง ๆ 100 กรัม
2. เกลือป่น 1 ช้อนชา
3. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
4. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
6. กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมันสำหรับทอดปลา 1 ถ้วย

ส่วนประกอบซอสมะขาม
1. น้ำมะขามเปียก 200 กรัม
2. น้ำตาลปีบ 120 กรัม
3. น้ำตาลทราย 40 กรัม
4. ซีอิ๊วขาว 30 กรัม
5. เกลือป่น 2 กรัม

วิธีการทำ
1. ทำซอสมะขามโดย ผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว เคี่ยวให้เหนียว
2. โรยเกลือ พริกไทยให้ทั่วปลา พักไว้ 10 นาที นำปลามาชุบไข่และคลุกแป้งสาลีให้ทั่ว ทอดพอเหลือง
3. ตักปลาใส่จาน โรยด้วยกระเทียมเจียว ราดด้วยซอสมะขาม พร้อมเสิร์ฟ

.....................................................................................................................



เมนูที่ 10 ขอเสนอ
ปลาทอดน้ำปลา

ส่วนประกอบ
1. ปลาอะไรก็ได้ครับ (จานนี้เป็นแซลม่อนนะครับ)
2. น้ำปลา
3. น้ำตาล
4. น้ำเปล่า

วิธีการทำ
1. เริ่มต้นจากเอาปลามาแล่ แล้วล้างสะอาดแล้ว หั่นเป็นชิ้น จากนั้นก็เอามาทอดให้เหลืองสวย พร้อมทั้งใส่ใบเตยดับกลิ่นปลาไปด้วย
2. แล้วก็มาทำน้ำปลาที่จะราด เอา น้ำปลา น้ำตาล น้ำเปล่า ผสมกันก่อน 3 : 1 : 1 ครับ
3. เทน้ำมันออกจากระทะแล้วก็เทน้ำปลาที่เราผสมแล้วลงไปในกระทะ พอน้ำปลาเริ่มข้น ตักขึ้นมาราดตัวปลา เสิร์ฟ

.....................................................................................................................



เมนูที่ 11 ขอเสนอ
แหนมซี่โครงหมูทอด

ส่วนประกอบ
1. ซี่โครงหมูล้างและตัดชิ้นตามต้องการ ผึ่งให้แห้ง 1 ก.ก.
2. กระเทียมแกะกลีบปอกเปลือก 1/2 ถ้วย
3. ข้าวสุก 1/2 ถ้วย
4. พริกขี้หนู 20 เม็ด
5. เกลือเม็ดเล็ก 1 1/2 ช.ต.

วิธีการทำ
1. โขลกกระเทียมกับเกลือพอหยาบๆ ผสมกับข้าวสุก
2. นำส่วนผสมในข้อ 1 เคล้ากับซี่โครงหมูให้ทั่วเข้ากันดี ใส่พริกขี้หนู หมักใน ภาชนะหรือ บรรจุถุงพลาสติกไล่อากาศออกให้หมด มัดปากถุงให้แน่น แล้วใส่ถุงพลาสติกซ้อนอีก 1 ชั้น มัดปากถุงให้แน่นเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง 3 วัน เพื่อให้เกิดรสเปรี้ยว นำมาทอดรับประทาน
3. รับประทานกับผักกาดหอม ต้นหอม ขิงสด ผักชี และถั่วลิสงคั่ว
เคล็ดไม่ลับ : เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง 3 วันเพื่อให้เกิดรสเปรี้ยว ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นหมักไว้ 7 วันครับ

.....................................................................................................................
โห.. ของแกล้มเหล้าท้างน้านนน



เมนูที่ 12 ขอเสนอ
โป๊ะแตกผัดแห้ง

ส่วนประกอบ
1. ปลาหมึก 1 ขีด
2. ปลากะพง 1 ขีด
3. กุ้ง 1 ขีด
4. ข่า 1 แง่งหั่นเป็นแว่นๆ
5. ตะไคร้ 1 ต้นซอยเป็นแว่นๆ
6. ใบมะกรูด 5 ใบ
7. เห็ดฟาง 5 ดอก
8. ใบโหระพา 5-6 ใบสำหรับตกแต่ง
9. พริกขี้หนูสับ 8 เม็ด
10. กระเทียมสับ 5 หัว
11. น้ำปลา 1/3 ช้อนโต๊ะ
12. น้ำตาลทราย 1/3 ช้อนโต๊ะ
13. น้ำมันหอย 1/3 ช้อนโต๊ะ
14. น้ำพริกเผา 1/4 ช้อนโต๊ะ
15. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
16. น้ำมันพืช 1/3 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ
1. ปลาหมึก กุ้ง และปลากะพง ลวกพอสุก
2. จากนั้นนำข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนูสับ กระเทียมสับลงไปผัดในน้ำมัน
3. ใส่ปลาหมึก กุ้ง และปลากะพง พร้อมกับเห็ดลงไปผัดให้เคล้ากับเครื่อง
4. ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมันหอย น้ำพริกเผา และน้ำมะนาว ผัดคลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากันอีกที ชิมให้มีรสชาติออกเผ็ด เปรี้ยวอมหวาน ตักใส่จานตกแต่งด้วยใบโหระพา

.....................................................................................................................



เมนูที่ 13 ขอเสนอ
ปลาหมึกยัดไส้ นึ่งมะนาว

ส่วนประกอบ
1. ปลาหมึก 2 ตัว
2. เนื้อปลาสับ 1 ถ้วย
3. พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต๊ะ
4. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
5. กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำซุป 1/4 ถ้วย
10. เกลือ 1/4 ช้อนชา
11. กระเทียมซอยเป็นแว่น สำหรับโรยหน้า
12 ผักชีซอย สำหรับโรยหน้า

วิธีการทำ
1. ผสมเนื้อปลาสับเกลือ นวดให้เข้ากัน พักไว้สักครู่
2. นำปลาหมึกมาล้างทำความสะอาดให้ดี แล้วนำส่วนผสมเนื้อปลาสับมายัดไส้
3. นำปลาหมึกยัดไส้เรียงบนจานสำหรับนึ่ง พักไว้
4. ในชามผสมใส่พริกขี้หนู ผักชี กระเทียม น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย น้ำซุป ผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
5. ตักน้ำราดลงบนปลาหมึกไข่ที่เตรียมไว้ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปนึ่งจนสุก
6. นำปลาหมึกออกมา ราดหน้าด้วยน้ำราดที่เหลือ โรยหน้าด้วยกระเทียมซอย มะนาวฝานและผักชี

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ยำไข่มดแดง สุดยอดอาหารอีสาน (แซ่บหลาย)




ยำไข่มดแดง สุดยอดอาหารอีสาน


ก่อนอื่นต้องไปสอยไข่มดแดงมาก่อนนะ ระวังตัวด้วยละ อิอิ

เครื่องปรุงและวัตถุดิบ

1 ไข่มดแดง 1 ถ้วย
2 น้ำปลา
3 มะนาว
4 หอมแดง
5 พริกป่น
6 ข้าวคั่ว
7 ต้นหอม
8 สะระแหน่
9 ชูรส

ขั้นตอนการทำ

ล้างไข่มดแดงพักใส่ตะแกรง
ทำน้ำยำก่อนใส่ชามมีวิธีดังนี้
1 น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
2 น้ำมะนาวครึ่งช้อนโต๊ะ
3 พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
4 ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
5 ชูรส 1 ช้อนชา
6 หอมแดง ต้นหอม ซอย
7 แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วใส่ไข่มดแดงคลุกเคล้าอีกเล็กน้อย
8 ตักใส่จาน โรยสะระแหน่ พร้อมเสริฟ

วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ผัดกะเพราไก่ : Pad Kaprao Kai (Stir Fried Chicken with Holy Basil)

วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กะเพราไข่เจียว ต่อยอดเมื่อกี้ อิอิ



ไข่ข่เจียวเทวดาง่ายๆแต่คลายหิว

ส่วนผสม
1.ไข่(ถ้าไม่มีก็ไม่ใช่)
2.กระทะ ถ้าไม่มีเอาหม้อก็ได้
3.น้ำมันพืช ช่วงนี้แพง เจียวน้ำมันหมูเอาก็ได้
4.น้ำปลา ขาดบ่ได้เลย อิอิ



วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ผัดมาม่าอาหารเด็กหอ


ผัดมาม่า




ส่วนผสม
เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พอสำหรับ 2-3 ที่ (น่าจะราวๆ 3 ห่อมาม่า)
หมูแล่เป็นชิ้น 1/3 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ซอสญี่ปุ่น (อันที่จริงซอสอะไรก็ได้หรอก) 2 ช้อนชา
กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 1/4 ชช.
ผักสำหรับผัดที่ชอบ วันนี้ใช้ถั่วลันเตา 1/3 ถ้วยตวง กับผักโขมสับเหลือๆ นิดหน่อย
น้ำมันที่เหลือจากการเจียวเบค่อน 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่ดีต่อสุขภาพหรอกนแต่มันหอมอร่อยถ้าใครระวังคอเลสเตอรอล จะเปลี่ยนเป็นน้ำมันที่ใช้ประจำก็ได้)
ซอสปรุงรส (ตราภูเขาทอง)
ซีอิ๊วขาว
น้ำตาลทราย

วิธีทำ
1. หมักหมูด้วยซอสญี่ปุ่น กระเทียมเจียว (ประมาณหยิบมือนึงก็พอ) และน้ำมันงา พักไว้ครู่หนึ่ง
2. ต้มเส้นบะหมี่กึ่งฯ ระวังอย่าให้เละ เอาแค่พอสุกหรือเกือบๆ สุก แล้วยกลง ล้างด้วยน้ำเย็นจนเส้นเย็น
3. ตั้งกะทะ ใส่น้ำมันเบค่อน เอาหมูที่หมักไว้ลงผัดให้สุก ใส่ผักลงผัด แล้วตามด้วยเส้น ปรุงรสด้วยซอสภูเขาทอง ซีอิ๊วขาว และน้ำตาล ใส่ไข่ รวนๆ เคล้าๆ ให้ทั่ว ก่อนยกลง โรยด้วยกระเทียมเจียวที่เหลือ ผัดเร็วๆ อีกทีแล้วยกลง เสิร์ฟได้

ผัดหมี่โคราชและวิธีการทำ


ครื่องปรุง

◊ เส้นหมี่แช่น้ำ ๕ นาที สรงขี้นให้สะเด็ดน้ำ
◊ เนื้อหมูสามชั้น หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ทอดพอสุก
◊ กุนเชียง หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ทอดพอสุก
◊ ถั่วงอก
◊ พริก
◊ น้ำมะขามเปียก
◊ น้ำตาลปี๊บ
◊ เต้าเจี้ยว
◊ ซีอิ๊วดำ
◊ หัวหอม
◊ กระเทียม
◊ น้ำปลา

วิธีทำ โขลกหอมกระเทียม พริกแห้ง พอแหลก นำไปผัดใส่เต้าเจี้ยว น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วดำ น้ำปลา (ถ้าแห้งสามารถเติมน้ำเปล่าลงไปนิดหน่อย) จากนั้นใส่หมูสามชั้นที่ทอดแล้วลงไป ตามด้วยเส้นหมี่ ถ้าแห้งให้เติมน้ำเปล่าลงไป ผัดจนเส้นนุ่ม ใส่กุนเชียง ถั่วงอก ใบกุ้ยช่าย ชิมรสตามชอบ

user posted image
PMEmail Poster